20.00 น. พร้อมกัน ณ เคาน์เตอร์เช็คอินสายการบิน Turkish airlines อาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศสนามบินสุวรรณภูมิโดยมีเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ คอยต้อนรับและอำนวยความสะดวกด้านสัมภาระและเอกสารการเดินทางทำผ่านขั้นตอนการตรวจคนออกนอกประเทศ
23.15 น. ออกเดินทางสู่กรุงอิสตันบูล ประเทศตุรกีQเที่ยวบินที่ TK69
06.10 น. ถึงสนามบินอิสตันบูล
07.55 น. เหินฟ้าสู่กรุงไคโร เที่ยวบินที่ TK690
09.10 น. ถึงสนามบินนานาชาติกรุงไคโร ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและรับสัมภาระในการเดินทางเรียบร้อยแล้ว
นำท่านชม Mainyal Palace พิพิธภัณฑ์พระราชวังของเจ้าชายมูฮัมหมัดอาลีเป็นพระราชวังในสมัยราชวงศ์อลาวียาตั้งอยู่บนเกาะ Rhoda บนแม่น้ำไนล์ ปัจจุบันเป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ที่สวยงามและสำคัญที่สุดในอียิปต์ โดดเด่นด้วยการออกแบบทางสถาปัตยกรรมสไตล์อิสลามสมัยใหม่ผสมผสานกับเปอร์เซียและมัมลุก นอกจากนี้ยังออกแบบตกแต่งลวดลายด้วยของซีเรีย โมร็อกโก และอันดาลูเซีย รวมถึงออตโตมัน อาคารจึงมีกลมกลืนระหว่างประเพณีสถาปัตยกรรมอิสลามอย่างงดงามและลงตัว ด้านนอกแยกเป็นอาคารส่วนต้อนรับ หอนาฬิกา ซาบิล มัสยิด พิพิธภัณฑ์ล่าสัตว์ ห้องนั่งเล่น โถงบัลลังก์ พิพิธภัณฑ์ส่วนตัว และห้องโถงสีทอง ที่รายล้อมความร่มรื่นของสวนสไตล์เปอร์เซียและสวนสไตล์อังกฤษสะท้อนให้เห็นถึงวิถีชีวิตของเจ้าชายและรัชทายาทแห่งอียิปต์ช่วงปลายศตวรรษที่ 19 และต้นศตวรรษที่ 20
จากนั้นนำท่านชม Salah EL Din Citadel & Mohamed Ali Mosque ป้อมปราการแห่งไคโร หรือ ป้อมปราการแห่งศอลาฮุดดีน เป็นป้อมปราการสมัยอิสลามในยุคกลางในกรุงไคโร ประเทศอียิปต์ สร้างโดย Salah ad-Din (Saladin) และเป็นที่ตั้งของรัฐบาลในอียิปต์และเป็นที่พำนักของผู้ปกครองมาเกือบ 700 ปีตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 ถึงศตวรรษที่ 19 สถานที่ตั้งบนแหลมของเนินเขา Mokattam ใกล้ใจกลางกรุงไคโรมีตำแหน่งทางยุทธศาสตร์ที่มองเห็นเมืองและเหนือเส้นขอบฟ้า ในปี 2519 ได้รับการประกาศโดยยูเนสโกให้เป็นส่วนหนึ่งของมรดกโลกไคโรแห่งประวัติศาสตร์ (อิสลาม) ชมมัสยิดใหญ่ของ Muhammad Ali Pasha หรือ Alabaster Mosque เป็นมัสยิดที่ตั้งอยู่ใน Citadel of Cairo ในอียิปต์ สร้างโดย Muhammad Ali Pasha ระหว่างปี 1830 ถึง 1848 เป็นมัสยิดออตโตมันตั้งอยู่บนยอดของป้อมปราการ ซึ่งเป็นมัสยิดที่มองเห็นได้ชัดเจนที่สุดในไคโร
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารไทย
นำท่านชมThe Egyptian Museum พิพิธภัณฑ์อียิปต์เป็นพิพิธภัณฑ์โบราณคดีที่เก่าแก่ที่สุดในตะวันออกกลาง และเป็นที่ เก็บรวบรวมโบราณวัตถุฟาโรห์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกถึง 120,000 ชิ้น ก่อตั้งขึ้นโดย ออกุสต์ มาริเอตต์ นักโบราณคดีชาวฝรั่งเศส เพื่อเป็นพิพิธภัณฑ์แห่งแรกของอียิปต์ ที่เก็บสะสมสมบัติของฟาโรห์ ศิลปวัตถุ และโบราณวัตถุต่าง ๆ ที่ปรากฏในหน้าประวัติศาสตร์ เปิดโอกาสให้เข้าชม และศึกษาตำนานบทหนึ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลก
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
นำท่านเข้าสู่ที่พัก MAMLOUK HOTEL 4 ดาว หรือเทียบเท่า
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ เมืองอเล็กซานเดรีย (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง) ซึ่งเป็นเมืองสำคัญในสมัยโรมันปกครองอียิปต์ เดิมทีเป็นหมู่บ้านประมงเล็กๆ ที่ชื่อว่าราคอนดาห์ เมื่อ 1,200 ปีก่อนคริสตกาล จนเมื่อ 332 ปี ก่อนคริสตกาลหรือประมาณ 2,300 กว่าปีก่อนพระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราชมาพบ จึงให้มีการปรับปรุงขยายเมืองเพื่อเป็นเมืองหลวงและตั้งชื่อให้คล้องจองกับชื่อของพระองค์ เมืองอเล็กซานเดรียนี้ยังเป็นสถานที่สำคัญในตำนานรักอันยิ่งใหญ่ของราชินีเลอโฉมชื่อก้องโลก พระนางคลีโอพัตรา และนายทหารโรมัน มาร์ค แอนโทนี และปัจจุบันเมืองนี้ใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศ เป็นเมืองพักผ่อนตากอากาศที่ติดกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียนที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของโลก นำท่านเข้าชมป้อมปราการซิทาเดล Citadel of Quit bay เดิมเป็นป้อมปราการป้องกันสมัยศตวรรษที่ 15 สร้างขึ้นในปี 1477 ถึง 1479 โดย Sultan Al-Ashraf Sayf al-Din Qa'it Bay ป้อมปราการตั้งอยู่ทางด้านตะวันออกของปลายด้านเหนือของเกาะฟารอสที่ปากอ่าวตะวันออก ถือเป็นป้อมปราการป้องกันที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่ง ชม Abu Al-Abbas Al-Mursi มัสยิดที่ใหญ่ที่สุดในอเล็กซานเดรียและสวยที่สุดในอียิปต์ และเป็นมัสยิดที่สำคัญและงดงามที่สุดในอเล็กซานเดรียด้วยการออกแบบสไตล์อาหรับอย่างสวยงาม ตกแต่งซุ้มสีครีม แนวเสาของซุ้มโค้งยาวทำจากหินแกรนิตและพื้นทำด้วยหินอ่อนที่สวยงาม ด้านบนเป็นโดมขนาดใหญ่สี่หลัง และหอคอยสูงสุเหร่า สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2318 เพื่อรำลึกถึงชีวิตชีคอันดาลูเซียซึ่งถูกฝังอยู่ในสถานที่นี้ เป็นหนึ่งในมัสยิดที่มีผู้เยี่ยมชมมากที่สุด
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร ท้องถิ่น
นำท่านชมภายนอก ห้องสมุดอเล็กซานเดรีย (Library of Alexandria) อยู่ทางเหนือสุดของอียิปต์ เป็นเมืองเก่าที่ติดอยู่กับทะเลเมดิเตอเรเนียนเคย ปกครองโดยชาวเมืองอียิปต์ดั้งเดิมแล้วก็ตกเป็นของกรีก โรมันจนมาถึงการเข้ามาของศาสนาอิสลามจาก อาณาจักรออโตมัน เมืองนี้เลยมีศิลปะของทางกรีก โรมัน ตุรกี ปนๆ กันอยู่ อิสระให้ท่านเก็บภาพประทับใจ ได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางกลับไคโร
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
นำท่านเข้าสู่ที่พัก MAMLOUK HOTEL 4 ดาว หรือเทียบเท่า
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
07.00 น. นำท่านเดินทางโดยรถจิ๊ป4WD เดินทางสู่เมือง Fayoum ใช้เวลา 2.30 ชม Fayum เป็นหนึ่งในเมืองที่เก่าแก่ที่สุดของอียิปต์มีมรดกอันอุดมสมบูรณ์ของพืชพรรณและสัตว์และโบราณคดีเป็นหนึ่งในภูมิภาคที่สวยงามและอุดมสมบูรณ์ที่สุดของอียิปต์ ยังเป็นพื้นที่ประกาศให้ได้รับการคุ้มครองโดยรัฐบาลอียิปต์ แวะชมหมู่บ้านเล็กๆ ของตูนิส ('izbat Tunis) ตั้งอยู่ในโอเอซิสของ Fayoum ตั้งอยู่บนเนินเขาหันหน้าเข้าหาทะเลสาบ น้ำเค็มขนาดใหญ่ มองเห็นทิวทัศน์อันสวยงามของขอบทะเลทรายอีกด้านของทะเลสาบ เป็นหนึ่งในสถานที่ที่สวยงามที่สุดในอียิปต์หมู่บ้านตูนิสเป็นชุมชนเกษตรกรรมและประมงและยังเป็นหมู่บ้านที่มีชื่อเสียงของเครื่องปั้นดินเผา นำท่านชม Valley of Whales ซึ่งเป็นสถานที่ของ UNESCO Wadi el Hitan (หรือ Zeuglodon Valley) ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติในปี 2548 อุดมไปด้วยฟอสซิลทั้งสัตว์มีกระดูกสันหลังและสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง ที่นี่เป็นทะเลทรายตะวันตกของอียิปต์เป็นสถานที่แห่งเดียวในโลกที่สามารถมองเห็นโครงกระดูกของครอบครัววาฬโบราณได้ในสภาพทางธรณีวิทยาและภูมิศาสตร์ดั้งเดิม
นำท่านชมทะเลทรายดินแดนอันอุดมสมบูรณ์ ทะเลสาบ และน้ำตกของ Fayoum Oasis 'Little Egypt' Fayum เป็นพื้นที่ลุ่มขนาดใหญ่ที่มีทะเลสาบขนาดใหญ่เรียกว่า Birkat Qarun (ทะเลสาบ Qarun) ที่ลุ่มแม่น้ำแยกมาจากแม่น้ำไนล์ซึ่งเป็นคลองในสมัยโบราณ ซึ่งเป็นแหล่งโบราณคดีและธรรมชาติประวัติศาสตร์ตั้งแต่ยุคดึกดำบรรพ์ และเป็นส่วนหนึ่งของ Pangea ไปจนถึงความรุ่งโรจน์ของยุคของฟาโรห์และในช่วงเวลาของการปกครอง Greco-Roman
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น
นำท่านชมวิวพาโนรามาของภูเขา Medawara ซึ่งมีอายุ 45 ล้านปี และ Magic Lakeซึ่งเป็นแหล่งมรดกทางธรรมชาติแห่งแรกและแห่งเดียวในอียิปต์ อิสระให้ท่านเก็บภาพประทับใจ ได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางกลับไคโร
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารจีน
นำท่านเข้าสู่ที่พัก MAMLOUK HOTEL 4 ดาว หรือเทียบเท่า
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่เมืองซัคคาร่า ชมพีรามิดขั้นบันไดเป็นสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่ซึ่งเป็นที่ตั้งของสุสานโบราณของเชื้อพระวงศ์สมัยอียิปต์โบราณเป็นเดิมเมืองหลวงของราชอาณาจักรอียิปต์โบราณ ในบริเวณนี้เป็นที่ตั้งของพีระมิดจำนวนหลายหลัง รวมถึงพีระมิดขั้นบันไดของฟาโรห์ดโจเซอร์ (Step Tomb) สร้างด้วยหินที่สมบูรณ์ที่สุดและเก่าแก่ ที่สุดในประวัติศาสตร์ พีระมิดแห่งโจเซอร์ ซึ่งสร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์ที่สามแห่งอียิปต์ ซึ่งต่อมาพีรามิดนี้ได้เป็นต้นแบบพีรามิดในยุคต่อมา และบริเวณนี้ยังเป็นสุสานฟาโรห์แห่งอียิปต์โบราณจำนวนอีกสิบหกพระองค์ รวมถึงเจ้าพนักงานระดับสูงในสมัยโบราณได้สร้างอนุสาวรีย์พิธีศพส่วนตัวในสุสานแห่งนี้ตลอดช่วงสมัยการปกครองของฟาโรห์ และยังใช้เป็นที่ประกอบพิธีกรรมทางศาสนามานานกว่า 3,000 ปี ทั้งในสมัยปโตเลมีและโรมัน พีรามิดแห่งนี้เป็นต้นแบบของพีรามิดในยุคต่อมา อิสระให้ท่านเก็บภาพประทับใจ
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น
นำท่านชมยิ่งใหญ่ของมหาพีระมิดกีซา หรือ The Great Pyramid of Giza อายุกว่า 5,000 ปี ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก ซึ่งเป็นที่บรรจุพระบรมศพของพระศพของกษัตริย์อียิปต์โบราณ หรือ ฟาโรห์ พีระมิดของฟาโรห์ในยุคราชวงศ์ที่ 4 ซึ่งประกอบไปด้วยพีระมิดของฟาโรห์คูฟู (Khufu) คาเฟร (Khafre) และเมนคาอูเร (Menkaure) ซึ่งพีระมิดที่ใหญ่ที่สุดก็คือของฟาโรห์คูฟู ซึ่งพระองค์เป็นผู้สร้างขึ้นเองเมื่อก่อนคริสตกาลประมาณ 25,800 ปี นับอายุจนถึง ปัจจุบันก็กว่า 4,500 ปี ถือเป็นพีระมิดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก นับเป็นสิ่งก่อสร้างที่ยิ่งใหญ่และเก่าแก่ที่สุดใช้เวลาก่อสร้างทั้งสิ้น 20 ปีก่อสร้างด้วยหินปูนมากว่า 2.5 ล้านก้อน โดยแต่ละก้อนมีน้ำหนัก 2 ถึง 70 ตัน และกำลังแรงงานกว่าแสนคนตัดจากแท่งหินขนาดใหญ่มาก หินแต่ละก้อนวางชิดติดกันแบบแนบสนิทมาก แม้แต่กระดาษก็สอดไม่ผ่าน นำท่านชม สฟิงซ์ ซึ่งแกะสลักจากเนินหินธรรมชาติมี ส่วนหัวเป็นพระพักตร์ของฟาโรห์และลำตัวเป็นสิงโต สฟิงซ์ (Sphinx) ซึ่งแกะสลักด้วยหินก้อนใหญ่เป็นรูปสิงโตหมอบ แต่ศีรษะเป็นมนุษย์ส่วนใบหน้านี้เป็น ใบหน้าของพระเจ้าคีเฟรน ซึ่งได้รับการนับถือพระเจ้าแห่งพระอาทิตย์ สฟิงซ์นี้สูงถึง 18 เมตร ยาว 73 เมตร อิสระให้ท่านเก็บภาพประทับใจ **(กรณีท่านใดสนใจขี่อูฐกรุณาติดต่อที่หัวหน้าทัวร์ ราคาประมาณ $ 20 เหรียญต่อท่านต่อหนึ่งตัว)** จากนั้นนำท่านชมศูนย์กลางการทำ กระดาษปาปีรุส ซึ่งเป็นกระดาษชนิดแรกของโลกทำจาก ต้นกก (Papyrus) ใช้บันทึกข้อความสรรเสริญเทพเจ้าและเหตุการณ์สำคัญต่างๆ ในสมัยอียิปต์โบราณ ได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางสู่ สถานีรถไฟ เดินทางสู่เมือง Luxor (รถไฟตู้นอน number 86)
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำบนรถไฟ (Dinner Box)
เช้า บริการอาหารเช้าบนรถไฟ (Breakfast Box)
07.00 น. เดินทางถึงเมือง Luxor
นำท่านชม มหาวิหารคาร์นัค (The Temple of Karnak) เป็นวิหารที่ใหญ่ที่สุดในโลก ตัววิหารหลังเดียวมีเนื้อที่ถึง 60 เอเคอร์ ซึ่งใหญ่พอที่จะนำโบสถ์ขนาดใหญ่ของยุโรปไปวางได้ถึง 10 หลัง มหาวิหารแห่งนี้เริ่มก่อสร้างในสมัยฟาโรห์ทุตโมซิสที่ 1 เพื่อถวายแด่เทพอมอน-รา เมื่อกว่า 3,600 ปีมาแล้ว หลังจากนั้นฟาโรห์องค์ต่างๆ ก็เริ่มสร้างเพิ่มเติม ทำให้วิหารมีขนาดใหญ่ขึ้นอย่างมาก แต่เห็นความยิ่งใหญ่ของวิหารแล้ว ขอให้ทุกท่านลองจินตนาการดูว่าชาวอียิปต์โบราณใช้วิธีใดในการขนย้ายเสา และหิน พร้อมทั้งการแกะสลักลวดลาย ซึ่งเมื่อท่านเห็นความสูงแล้วก็จะยิ่งทำให้นึกไม่ออกก็เป็นได้ ว่าเขาใช้วิธีทำอย่างไร อิสระให้ท่านเก็บภาพประทับใจตามอัธยาศัย
นำท่านชมวิหารลักซอร์ (The Temple of Luxor) ซึ่งสร้างถวายแก่เทพอมอนรา กษัตริย์แห่งเทพ เช่นกัน วิหารแห่งนี้ได้รับการบูรณะในปี ค.ศ. 1883 ภายในบริเวณวิหารประกอบด้วยซุ้มประตูขนาดใหญ่และรูปสลักหินแกรนิตขนาดมหึมาสลักเป็นรูปฟาโรห์รามเซสที่ 2 และมหาราชินีเนเฟอตารี ชมเสาโอบิลิสก์ เสาหินแกรนิตขนาดใหญ่ซึ่งแกะสลักด้วยอักษรอียิปต์โบราณ(เฮโรกริฟฟิค) เพื่อสรรเสริญเทพเจ้าอมอนรา ซึ่งท่านอาจจะได้เห็นเสาเช่นนี้อีกที่ ปลาซเดอลาทริออง (Place de la Triamph) เมืองปารีสประเทศฝรั่งเศส ภาพสลักที่วิหารแห่งนี้ก็ถือได้ว่าน่าสนใจไม่น้อย เช่น ภาพขบวนนักรบเดินแถว ที่สลักอย่างแตกต่างกันว่าเป็นนักรบชนชาติใดบ้าง เห็นแล้วก็ชวนให้นึกถึงภาพสลักขบวนนักรบที่ปราสาทหินในเขมร (ที่ว่าของกลุ่มเสียมสยาม จะเดินแตกแถวกัน) นอกจากนั้น ด้านหน้าวิหารจะมีถนนสฟิงซ์หน้าแพะ (Sphinx Avenue) ยาว 3 กิโลเมตรใช้เป็นทางเชื่อมระหว่างวิหารลักซอร์กับวิหารคาร์นัค ได้เวลาอันสมควรนำท่าน เช็คอินเรือสำราญ Royal Beau Rivage 5 *หรือ เทียบเท่า
เที่ยง รับประทานอาหารบนเรือสำราญ (บุฟเฟ่ต์ )
ค่ำ รับประทานอาหารบนเรือสำราญ (บุฟเฟ่ต์ ) อิสระพักผ่อนบนเรือสำราญตามอัธยาศัย
05.00 น. สำหรับท่านที่สนใจนั่งบอลลูน พร้อมกัน ณ บริเวณล๊อบบี้ หมายเหตุ ท่านใดสนใจติดต่อสอบถามหัวหน้าทัวร์
เช้า รับประทานอาหารเช้าบนเรือสำราญ (บุฟเฟ่ต์) เช็คเอาท์เรือสำราญ
ทางเดินทางสู่ หุบผากษัตริย์(Valley of the Kings) เป็นที่ฝัง พระศพของฟาโรห์ 63 พระองค์ ตั้งอยู่ที่เทือกเขาทีบัน อยู่ฝั่ง ตะวันตกของแม่น้ำไนล์ (West Bank) หรือ นครธีบส์ในสมัยอียิปต์ โบราณ อดีตเชื่อว่าเป็นที่อยู่ของคนตาย หรือ นครของผู้วายชนม์ (Necropolis of Thebes) เต็มไปด้วยกลุ่มโบราณสถานที่มีประวัติน่าพิศวง ปัจจุบันเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ ท่านสามารถเลือกเข้าชมได้เพียง 3 สุสาน ด้านหน้าทางเข้าสุสานฟาโรห์บนยอดเขานั้นดูคล้ายปลายแหลมยอดพีระมิดเป็นการเลือกหวงซุ้ยในการฝั่งศพ ให้คล้ายว่าฝังอยู่ใต้พีระมิดสุสานเหล่านี้เป็นสุสานที่ถูกเลือกให้เป็นสุสานที่เก็บ มัมมี่และสมบัติของกษัตริย์ถึง 63 สุสาน แต่ละสุสานมีขนาดใหญ่เล็กต่างกัน ขึ้นอยู่กับระยะเวลาครองราชย์ สุสานเริ่มสร้างเมื่อฟาโรห์ครองราชย์ และปิดเมื่อฟาโรห์สิ้นพระชนม์ ภายในหลุมมีจิตรกรรมที่งดงามสีสดใสราวกับเพิ่งวาดเสร็จไม่นานนี้ (หมายเหตุ:ไม่รวมค่าเข้าสุสานของฟาโรห์ตุตันคามอน ถ้าต้องการชมกรุณาติดต่อหัวหน้าทัวร์)
นำท่านชมวิหารฮัคเชฟซุต (Temple of Queen Hatshepsut) ออกแบบโดยสถาปนิก ชื่อ “เซเนมุท” กว่า 3,500 ปีมาแล้วที่ประดิษฐานพระศพของ ฟาโรห์หญิงฮัตเชพซุต รู้จักในนาม “ราชินีหนวด” ฟาโรห์หญิงองค์เดียวในประวัติศาสตร์อียิปต์ ที่รุ่งเรืองมากในสมัยของพระองค์ ชมอนุสาวรีย์แห่งเมมนอน (Colossi of Memnon) หรือสุสานของฟาโรห์อาเมนโฮเทปที่ 3 อดีตเคยใช้เป็นวิหารประกอบพิธีศพของอาเมนโฮเทปที่ 3 ประมาณ 2,000 กว่าปี ก่อน เกิดเหตุแผ่นดินไหวอย่างรุนแรง ทำให้ตัววิหารพังลงมา เหลือเพียงรูปสลักหินทรายขนาดใหญ่ 2 รูป สูง 20 เมตร
หมายเหตุ : กรณีท่านใดสนใจเข้าชม Valley of Queen และ Nefetari Tomb ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นสุสานที่สวยที่สุดในอียิปต์ กรุณาติดต่อหัวหน้าทัวร์ล่วงหน้า 4 วันก่อนเข้าชม เนื่องจากมีการจำกัดผู้เข้าชมต่อวัน
นำท่านชมวิหารมาดินัตฮาบู หรือ HABU TEMPLE เป็นวิหารของ Rameses III เป็นวิหารที่ล้อมรอบด้วยกำแพงที่มีป้อมปราการขนาดใหญ่ มีพระราชวังของฟาโรห์ตั้งอยู่ด้านใน ผนังด้านนอกแกะสลักด้วยฉากทางศาสนาและภาพสงครามระหว่างราเมเสสที่ 3 กับชาวลิเบียและชาวทะเล เสาแรกเป็นรูปกษัตริย์ที่ฟาดฟันศัตรู และยังมีรายชื่อดินแดนที่ถูกยึดครอง ผนังภายในยังมีรูปปั้นนูนต่ำที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี ซึ่งบางส่วนยังคงสีเดิมไว้ อิสระให้เก็บภาพประทับใจได้
เที่ยง รับประทานอาหารบนเรือสำราญ (บุฟเฟ่ต์ )
ค่ำ รับประทานอาหารบนเรือสำราญ (บุฟเฟ่ต์ ) พักผ่อนตามอัธยาศัยบนเรือสำราญ พร้อมชมการโชว์และการแสดง ขณะที่เรือแล่นมุ่งหน้าสูเมืองเอ็ดฟู
06.00น. นำท่านนั่งรถม้าสู่วิหารเอ็ดฟู ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็นวิหาร อียิปต์โบราณที่ยังคงสภาพสมบูรณ์ที่สุด ตั้งอยู่ศูนย์กลางของบริเวณที่อยู่อาศัย สร้างขึ้นเพื่อบูชาเทพเจ้าฮอรัส (Horus) มีเศียรเป็นเหยี่ยวเป็นเทพเจ้าแห่งความดีและฉลาดรอบรู้ มองได้ไกลเหมือนตาเหยี่ยว อดีตวิหารถูกปกคลุมด้วยทรายเกือบถึงยอดตัวเสาและหัวเสาเป็นเวลานานหลาย ปี ค.ศ. 1860 มีการขนทราย ปรากฏว่าตัววิหารยังแข็งแรง แน่นหนา ขนาดของวิหารยาว 137 เมตร มีเสาใหญ่แบบไพรอนที่วัดได้ 79 เมตรตรงด้านหน้าและสูง 36 ม. วิหารนี้มีขนาดใหญ่และสวยงาม อิสระให้ท่านเก็บภาพประทับใจได้เวลา อันสมควรแก่นำท่านนั่งรถม้ากลับเรือสำราญ
08.00 น.รับประทานอาหารเช้าบนเรือสำราญ (บุฟเฟ่ต์) พักผ่อนตามอัธยาศัยบนเรือสำราญพักผ่อนตามอัธยาศัยบนเรือสำราญ ขณะที่เรือแล่นมุ่งหน้าสูเมืองคอมออมโบ (KomOmbo)
เที่ยง บริการอาหารกลางวันบนเรือสำราญ (บุฟเฟ่ต์ )
ขณะที่เรือล่องไปเมืองคอมออมโบ (KomOmbo) ชมวิถีชีวิตชุมชนที่ตั้งอยู่ติดริมแม่น้ำไนล์ บ้านเรือนส่วนใหญ่สูงเพียง 1 หรือ 2 ชั้น ระหว่างทางผ่านแหล่งเพาะปลูกที่สำคัญริมแม่น้ำ
17.00 น. เรือเทียบท่าเมืองเมืองคอมออมโบ (KomOmbo) นำท่านชมวิหารคอม-ออม-โบ ตั้งอยู่บนเนินเขาเล็กๆ ที่ล้ำออก มาถึงแม่น้ำไนล์ สามารถเห็นวิวของแม่น้ำไนล์อันงดงาม คำว่า “คอม” เป็นภาษาอาหรับ หมายถึงภูเขาเล็กๆ วิหารนี้เกือบเป็นวิหารอะโครโพลิสของกรีก หินที่ใช้สร้างแตกต่างกับวิหารอื่นๆ อาจเป็นเพราะถูกปกคลุมด้วยทรายเป็นเวลานาน การวางแบบของพื้นที่แปลกและเป็นเฉพาะตัว เป็นวิหารของเทพเจ้าสององค์ คือ เทพโซเบค (Sobek) เทพเจ้าแห่งความอุดมสมบูรณ์ มีรูปร่างเป็นมนุษย์แต่เศียรเป็นจระเข้ และ เทพเจ้าฮาโรเอริส (Haroeris) เทพเจ้าแห่งการแพทย์อียิปต์โบราณ วิหารนี้สร้างบนเนินเขาริมฝั่งแม่น้ำไนล์ เป็นบริเวณที่มีจระเข้ ชุกชุมในสมัยโบราณ วัดนี้จึงบูชาเทพโซเบก ซึ่งมีหัวเป็นจระเข้ และมีจระเข้มัมมี่เก็บรักษาไว้ ชมภาพแกะสลักพระนางคลีโอพัตรา ซึ่งเป็นรูปแบบของเครื่องแต่งกายในการทำภาพยนตร์ และภาพแกะสลักที่สำคัญ คือ ภาพแกะสลักการแพทย์แผนโบราณ โดยเฉพาะภาพการคลอดลูกของหญิงอียิปต์โบราณ และปฏิทินโบราณ มีร้านค้ามากมายตั้งอยู่ตลอดแนวท่าเรือ ขายเสื้อผ้าและสินค้าพื้นเมือง
ค่ำ รับประทานอาหารบนเรือสำราญ (บุฟเฟ่ต์) พักผ่อนตามอัธยาศัยบนเรือสำราญ ขณะที่เรือแล่นมุ่งหน้าสู่เมือง Aswan
เช้า (Breakfast Box)
05.00 น. ออกเดินทางสู่มหาวิหารอาบูซิมเบล (ใช้เวลา เดินทางโดยรถ บัส 3 ชม)
08.30 น. นำท่านชมความยิ่งใหญ่มหาวิหารอาบูซิมเบล ซึ่งประกอบด้วยวิหารใหญ่ของฟาโรห์รามเสสที่ 2 และวิหารของเนเฟอร์ตารีซึ่งเป็นมเหสีที่รักของพระองค์ วิหารอาบูซิมเบลงดงามยิ่งใหญ่และมีชื่อก้องโลกเพราะเมื่อมีการสร้างเขื่อนขนาดยักษ์ที่อัสวาน ทำให้วิหาร 17 แห่งจมอยู่ใต้น้ำจนองค์การยูเนสโก้ต้องมาช่วยยกให้และมหาวิหารอาบูซิมเบลก็ถูกยกขึ้นสูงจากพื้นดิน 65 เมตร ซึ่งเป็นงานที่ยากมากใช้เวลาทั้งสิ้น 4 ปี สิ้นค่าใช้จ่าย 40 ล้านเหรียญสหรัฐ ภายในวิหารใหญ่มีห้องบูชาและมีรูปสลัก 4 องค์นั่งอยู่ หนึ่งในนั้นคือ ฟาโรห์รามเสสที่ 2 พร้อมด้วยเทพเจ้าต่างๆ อีก 3 องค์ และทุกปี วันที่ 22 ก.พ. และวันที่ 22 ต.ค. ลำแสงแรกของพระอาทิตย์จะสาดส่องเข้าไปต้องรูปสลัก และว่ากันว่าวันที่ 22 ก.พ. ตรงกับวันประสูติของฟาโรห์รามเสสที่ 2 ขณะที่วันที่ 22 ต.ค. ตรงกับวันขึ้นครองราชย์ของพระองค์ แสดงให้เห็นถึงความเจริญทางวิทยาการทางการคำนวณของชาวอียิปต์โบราณ อิสระให้ท่านเก็บภาพประทับใจได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางกลับสู่เรือสำราญ
13.30 น. บริการอาหารกลางวันบนเรือสำราญ (บุฟเฟ่ต์ )พักผ่อนตามอัธยาศัยบนเรือสำราญ
16.00 น. ท่านใดสนใจล่องเรือล่องเรือเฟลุกะ (เรือใบอียิปต์) และชมหมู่บ้าน Nubian Village ติดต่อสอบถามหัวหน้าทัวร์
ค่ำ รับประทานอาหารบนเรือสำราญ (บุฟเฟ่ต์) พักผ่อนตามอัธยาศัยบนเรือสำราญ
08.00 น. รับประทานอาหารเช้าบนเรือสำราญ (บุฟเฟ่ต์) Check out
นำท่านชมวิหารฟิเล (Philae Temple)หรือวิหารไอซิส เป็นวิหารงดงามที่สุดแห่งหนึ่งในอียิปต์ ตั้งอยู่บนเกาะ Aglika เป็นเกาะที่เงียบสงบสร้างเพื่ออุทิศให้เทพธิดาแห่งความรัก ชมเสาหินโอเบลิสก์แกะสลักจากหน้าผาซึ่งยังไม่แล้วเสร็จ (The Unfinished Obelisk) เป็นแท่งหินมหึมาที่สกัดเกือบเสร็จแล้ว แต่มีรอยราวจึงทิ้งค้างไว้เช่นนั้น แท่งหินนี้เป็นของพระนางฮัทเชปซุท หากไม่แตกร้าวจะเป็นเสาโอเบลิสก์ที่สูง 41 เมตร หนัก 1,200 ตัน เสาโอเบลิสก์นี้เป็นอนุสาวรีย์ชนิดหนึ่งของอียิปต์โบราณสร้างเพื่อบูชาแด่เทพอามุน-ราหรือสุริยะเทพ จากนั้นนำท่านชมโรงงานผลิตหัวน้ำหอม ซึ่งสืบทอดมาตั้งแต่สมัย พระนางคลีโอพัตรา และที่นี้ยังเป็นศูนย์กลางแหล่งผลิตหัวน้ำหอมขนาดใหญ่ให้กับยี่ห้อแบรนด์เนมดังๆ หลายยี่ห้อ
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น จากนั้นนำทานสู่สนามบิน
16.25 น. เหินฟ้าสู่กรุงไคโร โดยสายการบิน Egypt airlinesQเที่ยวบินที่ MS 295
17.50 น. ถึงสนามบินนานาชาติกรุงไคโร
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารไทย
นำท่านเข้าสู่ที่พัก MAMLOUK HOTEL4 ดาว หรือเทียบเท่า
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางเข้าชมพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติอียิปต์อันเลื่องชื่อของโลกเป็นสถานที่ที่รวมศิลปวัตถุโบราณมากมายที่สุดในโลกแห่งหนึ่งชม โลงศพทองคำแท้พร้อมหน้ากากทองคำของฟาโรห์ตุตัน คาเมนและสมบัติส่วนตัวอีกมากมายของพระองค์อาทิ เตียงบรรทม รถศึกและเก้าอี้ บัลลังก์ทองคำซึ่งภาพบนพนักเก้าอี้ โรแมนติกมาก เป็นภาพของฟาโรห์ตุตันคาเมนนั่งอยู่บนเก้าอี้และมเหสีของพระองค์กำลังทำมันหอมให้ ทั้งคู่ใส่รองเท้าแตะคนละข้างอันแสดงถึงความรักอันลึกซึ้ง นอกจากนี้ ท่านยังจะได้ชมสมบัติอันล้ำค่าอื่นๆ อีกจำนวนมาก เช่น แหวน สร้อยข้อมือ สร้อยคอ ฝีมือประณีต สิ่งของทั้งหมดล้วนมีอายุเก่าแก่กว่า 3,300 ปี
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
นำท่านสู่ “ตลาดข่านเอลคาลีลี” ตลาดสำคัญทางการค้าขายของพื้นเมืองและแหล่งสินค้าที่ระลึกที่ใหญ่ที่สุดในกรุงไคโร ท่านสามารถเลือกซื้อของพื้นเมืองสวยๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นขวดน้ำหอมที่ทำด้วยมือ สินค้าต่าง ๆ เครื่องทองรูปพรรณและเพชรพลอยลวดลายแบบอาหรับ พรม และของที่ระลึกแบบพื้นเมือง นำท่านสู่ห้างสรรพสินค้าอิสระให้ท่านช้อปปิ่งตามอัธยาศัย (อิสระอาหารค่ำ)
18.00 น. นำท่านสู่สนามบินไคโร
21.20 น.เดินทางสู่อิสตันบูล โดยสายการบินเตอร์กิชแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ TK695
00.45 น. ถึงสนามบินอิสตันบูล
01.55 น. เดินทางสู่ กรุงเทพ โดยสายการบินเตอร์กิชแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ TK 68
15.20 น. เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดีภาพและความประทับใจ
รายการอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ ทั้งนี้โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของลูกค้าเป็นหลัก
***หมายเหตุสำคัญมาก : กรุณาจองล่วงหน้าอย่างน้อย 3 เดือนก่อนเดินทาง***
เนื่องด้วยวีซ่าอียิปต์ใช้เวลานานต้องยื่นวีซ่าล่วงหน้า 2 เดือนก่อนเดินทาง
หมายเหตุ
55 หมู่ 6 ดอนเปา แม่วาง เชียงใหม่ 50360