21.00 น. สมาชิกทุกท่านพร้อมกัน ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ ชั้น 4 เคาน์เตอร์สายการบินไทย แอร์เวย์ (เคาน์เตอร์ D) พร้อมเจ้าหน้าที่บริษัทฯ คอยอำนวยความสะดวกเรื่องสัมภาระและบัตรที่นั่งก่อนการเดินทาง
23.45 น. ออกเดินทางสู่ สนามบินนานาชาติแฟรงค์เฟิร์ต โดยสายการบินไทย แอร์เวย์ เที่ยวบินที่ TG920
06.30 น. เดินทางถึง สนามบินแฟรงค์เฟิร์ต ประเทศเยอรมัน หลังผ่านการตรวจคนเข้าเมืองแล้ว เดินทางสู่ “เมืองเวทซลาร์” (Wetzlar) (70 กม.) เมืองในรัฐเฮ็สเซิน บนฝั่งแม่น้ำลาห์น เดินเล่นชมเมืองที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ รวมทั้งซากปรักหักพังของโรมันโบราณและอิทธิพลจากการค้าในยุคกลาง ถนนที่ลัดเลาะไปตามตรอกซอกที่คดเคี้ยว ที่มีบ้านไม้ครึ่งหลัง (Half-timbered) ที่เก่าแก่เป็นเอกลักษณ์ตั้งเรียงรายเช่นเดียวกับสะพานหินเก่าที่ข้ามแม่น้ำลาห์นและโบสถ์หินทรายแห่งเซนต์แมรีแห่งศตวรรษที่ 12 เป็นสถาปัตยกรรมแบบโรมาเนสก์ บาโรก และโกธิกที่โดดเด่น จากนั้น เดินทางสู่ “กรุงบอนน์” (Bonn) (141 ก.ม.)
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร เมนูพิเศษ “ขาหมูเยอรมัน”
บ่าย หลังรับประทานอาหาร ชมกรุงบอนน์ อดีตเมืองหลวงของเยอรมนีตะวันตก ระหว่างปี ค.ศ.1949-1990 หรือเมื่อครั้งที่เยอรมนีถูกแยกออกเป็นฝั่งตะวันตกละฝั่งตะวันออก และที่สำคัญยังเป็นบ้านเกิดของคีตกวีเอกของโลกชาวเยอรมัน “ลุดวิก แวน บีโธเฟ่น” มีเวลาให้ท่านเดินเล่นชมเขตเมืองเก่า จากนั้น เดินทางสู่ “เมืองดุสเซลดอร์ฟ” (Dusseldorf) (32 ก.ม.) เมืองหลวงของนอร์ทไรน์-เวสท์ฟาเลีย (North Rhine-Westphalia) ที่ทอดตัวอยู่ริมแม่น้ำไรน์ นำท่านเข้าสู่ “จัตุรัส Marktplatz” จัตุรัสเก่าแก่ของเมือง ซึ่งมีประวัติยาวนานมาตั้งแต่ปลายศตวรรษที่ 16 ซึ่งมีอนุสาวรีย์เจ้าชายโยฮันน์ วิลเฮล์มที่ 2 บนหลังม้า ซึ่งตั้งอยู่ด้านหน้าทางเข้าศาลากลาง เดินชมย่าน Burgplatz ซึ่งทอดตัวอยู่ริมแม่น้ำไรน์รายล้อมไปด้วยร้านค้าและร้านขายของมากมาย
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
ที่พัก: NH Duesseldorf Cityหรือที่พักระดับใกล้เคียง
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
หลังอาหารเดินทางสู่ “ปราสาทไวซ์เชอร์ริง” (Vischering Castle) (100 กม.) ปราสาทแห่งนี้ สร้างขึ้นโดยบิชอป เกอร์ฮาร์ด วอน เดอ มาร์ก “Bischof Gerhard von der Mark” ตัวปราสาทมีคูล้อมรอบพร้อมสะพานที่ทอดออกมาสู่พื้นดิน ปราสาทแห่งนี้ยังถูกจัดให้เป็น 1 ใน 10 ปราสาทที่มีคูน้ำล้อมที่สวยที่สุดในโลก จากนั้นเดินทางสู่เมือง “มุนสเตอร์” (29 กม.) ชมเมืองเก่าที่มีจุดเด่นที่ Erbdrostenhof ซึ่งเป็นศาลขุนนางแห่งศตวรรษที่ 18 ที่น่าดึงดูดใจ เดินเล่นย่านตลาดเก่า “Prinzipalmarkt” ชมมหาวิหารมึนสเตอร์ “Münster Cathedral” ซึ่งเป็นโบสถ์แห่งศตวรรษที่ 13 ที่โดดเด่นของสถาปัตยกรรมสไตล์โรมาเนสก์และโกธิก
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย เดินทางสู่ “เมืองฮาเมลิน” (Hameln) ในรัฐแซกโซนีตอนล่าง ตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำเวเซอร์ (158 กม.) เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงจากนิทานกริมม์ เรื่อง “นักเป่าปี่แห่งฮาเมลิน” (The Pied Piper of Hamelin) หรือรู้จักกันอีกชื่อว่า “คนล่าหนูแห่งเมืองฮาเมลิน” และกล่าวกันว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นจริงที่เมืองนี้ ให้ท่านเดินเที่ยว ชมย่านเขตเมืองเก่าที่ถือว่าสวยงามที่สุดอีกเมืองหนึ่งของเยอรมนี อาคารบ้านเรือนเก่าแก่ที่ยังอนุรักษ์ไว้ ลักษณะบ้านเป็นแบบ Half-Timbered Houses จะสร้างโดยมีกรอบเป็นไม้ด้านหน้าเป็นหน้าจั่ว และมีลวดลายต่างๆ พร้อมตัวอักษรหรือตราประจำตระกูล บางหลังก็เป็นรูปปั้นต่างๆ ดูสวยงามแปลกตา นำท่านชม “The Rattenfängerhaus” ที่บอกเล่ากันมาว่าเป็นบ้านของคนจับหนู ตัวอาคารเป็นสถาปัตยกรรมเรอเนสซองส์สร้างตั้งแต่ปีค.ศ.1602
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
ที่พัก: MERCURE HOTEL, HAMELIN หรือที่พักระดับใกล้เคียง
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
หลังอาหารเดินทางสู่ “เมืองฮันโนเวอร์” (Hannover) (50 ก.ม.) เมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของรัฐโลว์เออร์แซกโซนี อดีตหมู่บ้านชาวประมงเล็กๆ บนฝั่งตะวันออกของแม่น้ำลีนที่กลายเป็นเมืองใหญ่ในศตวรรษที่ 13 ชม ส่วนที่เก่าแก่ที่สุดของใจกลางเมืองคือ Marktkirche นี่คือตัวอย่างของรูปแบบสถาปัตยกรรมที่มักพบในภาคเหนือของเยอรมนี อาคารก่อด้วยอิฐสีแดงเป็นลักษณะเด่นในหลายเมืองและหมู่บ้านทางตอนเหนือ บนถนน Burgstrasse ใกล้กับ Marktkirche มีบ้านปูนครึ่งไม้ที่เก่าแก่ที่สุดในฮันโนเวอร์ซึ่งมีอายุย้อนไปถึงศตวรรษที่ 16 จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ “เมืองเซลเลอ” (Celle)(40 ก.ม.) ตั้งอยู่ในแคว้นโลเวอร์ แซกโซนี่ ริมแม่น้ำอัลเลอ (Aller) ในอดีตเมืองเซลเลอเป็นเมืองชาวประมงเล็กๆ เมื่อ 1,000 ปีก่อนที่ขึ้นชื่อในเรื่องสถาปัตยกรรมที่เหมือนถอดแบบออกมาจากในเทพนิยาย เดินชมย่านอัลท์สตัดท์ Altstadt หรือย่านเมืองเก่าที่มีบ้านกรอบไม้สมัยศตวรรษที่ 16-17 เรียงรายตามถนนทั้งสาย โดดเด่นในเรื่องคานไม้แกะสลัก บ้าน Hoppener Haus ที่สร้างขึ้นเมื่อปี 1532 คือบ้านที่เก่าแก่และมีชื่อเสียงที่สุดในบรรดาบ้านกรอบไม้ด้วยกันในเมืองแห่งนี้
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย หลังอาหาร เดินทางสู่ “เมืองเบรเมน” (Bremen) (120 กม.) เมืองที่ตั้งอยู่บนริมฝั่งแม่น้ำวาร์เซอร์ (Weser) ใกล้ๆ กับทะเลเหนือ ถือเป็นชายฝั่งที่เก่าแก่ที่สุดของเยอรมัน โดยแต่เดิมนั้นเบรเมนเป็นเพียงหมู่บ้านชาวประมงเล็กๆ และได้มีการพัฒนาจนกลายมาเป็นเมืองท่าที่สำคัญของเยอรมันอย่างมาก นำท่านชม “จัตุรัสมาร์คพลัทซ์” ที่มีศาลาประชาคมรูปทรงสมัยฟื้นฟูศิลปะวิทยาการ ประติมากรรมโรลันด์ และวิหารทรงโกธิคเซนต์เพทรี เดินเล่นบนถนนชื่อดังเบิทเซอร์ตราเซและย่านชนอร์ ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ ส่วนตลาดไฟรมาร์คที่เบือร์เกอร์ไวเด ซึ่งมีอายุยาวนานกว่า 960 ปีนับว่าเป็นตลาดนัดประจำปีใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในเยอรมัน
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
ที่พัก: RADISSON BLU HOTEL, BREMEN หรือที่พักระดับใกล้เคียง
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
หลังอาหารเดินทางสู่ “เมืองฮัมบูร์ก” (Hamburg)(120 กม.) เมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศเยอรมนี รองลงมาจาก เบอร์ลิน และตั้งอยู่ระหว่างทะเลเหนือกับทะเลบอลติก ฮัมบูร์กยังเมืองท่าที่ใหญ่ที่สุดของเยอรมนี ชมโบสถ์เซนต์ไมเคิล สร้างปี ค.ศ.1669 ซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์และสิ่งก่อสร้างแห่งแรกทางฝั่งเมืองใหม่ จากนั้น ชมอาคารชีลีเฮ้าส์ (Chilehuas) สร้างด้วยอิฐทั้งหลังในรูปแบบบลิก-เอ็กเพรสชั่นนิสต์ ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของมรดกโลก เข้าสู่ “ย่านจัตุรัสกลางเมือง” ซึ่งเป็นที่ตั้งของศาลากลางของเมืองฮัมบูร์ก เป็นอาคารที่มีชื่อเสียง ตั้งอยู่ในเขตใจกลางเมืองใกล้ๆ กับทะเลสาบ Binnenalster เปรียบเสมือนหัวใจของฮัมบูร์ก โดยอาคารถูกสร้างขึ้นในช่วงระหว่างปี ค.ศ.1866-1897 ในสไตล์นีโอ-เรอเนสซองซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์ของเขตเมืองเก่า จากนั้น ชม “สไปเชอร์สตัต” (Speicherstadt) โกดังเก่าแก่ริมน้ำ สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1883 ในรูปแบบนีโอคลาสสิค-โกธิก ในช่วงเวลาดังกล่าวที่นี่เคยมีโกดังสินค้าริมน้ำมากที่สุดในโลกจนทำให้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปัจจุบัน
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย หลังอาหารเดินทางสู่ “เมืองลือเบค” (Lübeck) (67 กม.) เป็นอีกเมืองท่าที่ตั้งอยู่ใน รัฐชเลสวิก-โฮลชไตน์ของเยอรมนี อยู่บนฝั่งแม่น้ำทราเวอ เป็นเมืองท่าอันเก่าแก่แห่งนี้ยังคงมากไปด้วยกลิ่นอายของเมืองยุคกลาง อาคารบ้านเรือนส่วนใหญ่ล้วนถูกสร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมโกธิค อาคารบ้านเรือนส่วนใหญ่ล้วนนิยมก่อสร้างโดยการใช้อิฐเสียเป็นส่วนมาก นั่นจึงเป็นเหตุที่ช่วยให้เมืองได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกในปี ค.ศ.1987 นำท่านชมประตูเมือง Holstentor ซึ่งถือว่าเป็นอีกสัญลักษณ์ของเมืองลือเบค ชมศาลาว่าการ “เมืองลือเบค” (Lübecker Rathaus) ซึ่งเป็นศาลากลางของเมืองที่สร้างในสไตล์โกธิค ที่รายล้อมไปด้วยอาหารเก่าแก่ยุคกลางที่เป็นร้านอาหารและร้านขายของที่ระลึก เดินทางสู่ “เมืองชเวริน” (Schwerin) (69 กม.) ชเวรินเป็นเมืองหลวงของแคว้นเมคเลนบูร์ก-ฟอร์พอมเมิร์น จากนั้น นำท่านเดินเข้าสู่เขตเมืองเก่าที่ได้รับการยกย่องว่าสวยงามที่สุดในแคว้นเมคเลนบูร์ก เมืองเก่าชเวรินเคยถูกเพลิงไหม้มาหลายครั้งแต่ก็ยังคงมีบ้านเก่าหลายหลังที่ยังรอดพ้นมาได้ ชมบ้านไม้สไตล์ กึ่งไม้ผสมปูน (Half Timber) หลังเล็กๆน่ารัก เสมือนเป็นสัญลักษณ์ของเมืองเก่าชเวรินไปแล้ว
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร ท้องถิ่น เมนูสเต๊กเนื้อรสเลิศ (ท่านที่ไม่ทานเนื้อวัวกรุณาแจ้งแผนกเซลล์)
ที่พัก: NH HOTEL, SCHWERIN หรือที่พักระดับใกล้เคียง
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
หลังอาหารนำท่านเข้าชมภายในปราสาทชเวริน (Schwerin Castle) พระราชวังสมัยเรอเนซองส์ ปราสาทชเวรินล้อมรอบด้วยภูมิทัศน์อันงดงามที่ประกอบด้วยทะเลสาบและป่าไม้ ดูเหมือนปราสาทในเทพนิยาย ตัวปราสาทตั้งอยู่บนเกาะในทะเลสาบชเวรีนหนึ่งในทะเลสาบที่งดงามของเยอรมัน ชมห้องต่างๆที่ตกแต่งอย่างหรูหรา และสวนที่สวยงาม มีเวลาให้ท่านได้ชมความงดงามของสวนรอบๆ ปราสาท จากนั้นเดินทางสู่ “เมืองวิสมาร์” (Wismar) (49 กม.) เมืองท่าที่สำคัญทางตอนเหนือของเยอรมนี อยู่ริมทะเลบอลติก มีอาคารเก่าแก่จากยุคกลางที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี จนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี ค.ศ.2002 นำท่านชมบริเวณท่าเรือเก่า (Old Hansa Harbor) ซึ่งมีเสน่ห์และสวยงามอย่างมาก นำท่านเดินเข้าสู่เขตเมืองเก่าเป็นที่ตั้งของมหาวอหารนิโคไล (Nikolaikirche) วิหารเก่าแก่คู่เมืองวิสมาร์และเป็นที่เคารพสักการะของชาวเรือเป็นอย่างยิ่ง จากนั้น อิสระทุกท่านเดินเล่นชมเมืองตามอัธยาศัย
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย เดินทางสู่ “เมืองรอสต๊อค” (Rostock) (62 กม.) เมืองริมทะเลที่มีสถาปัตยกรรมอิฐสไตล์กอธิกที่สวยงามในยุคฮันเซียติกที่โดดเด่นในศตวรรษที่ 14-15 รอสต๊อคเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในรัฐเมคเลนบูร์ก-ฟอร์พอมเมิร์นซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศเยอรมนี และอยู่ริมฝั่งทะเลบอลติก นำท่านเข้าสู่ “ย่านเมืองเก่า” ชมศาลาว่าการเมือง (Rathaus) สไตล์ศิลปะสมัยบาร๊อค ชมมหาวิทยาลัยรอสต๊อก ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ.1419 ถือเป็นมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก นำท่านล่องเรือในแม่น้ำวาร์โนว์ (Warnow) ชม Alter Strom ซึ่งเป็นแม่น้ำสายย่อยที่เก่าแก่และมีเสน่ห์ในย่านชานเมืองของ Warnemünde ที่ริมฝั่งจะเรียงรายไปด้วยกระท่อมชาวประมงน่ารักๆ สีสันสวยงาม (งดล่องเรือในช่วงฤดูหนาว พ.ย.-มี.ค.)
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
ที่พัก: RADISSON BLU HOTEL, ROSTOCK หรือที่พักระดับใกล้เคียง
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
หลังอาหารเดินทางสู่ท่าเรือเฟอร์รี่เมืองรอสต๊อก นำท่านลงเรือเฟอร์รี่ข้ามทะเลบอลติกแสนสวยสู่เมืองเกดเซอร์ (Gedser) เมืองท่าที่สำคัญของทะเลบอลติก ตั้งอยู่ทางตอนใต้สุดของเกาะฟอลสเตอร์ของ “ประเทศเดนมาร์ก” และยังเป็นจุดใต้สุดของสแกนดิเนเวียและกลุ่มประเทศนอร์ดิกอีกด้วย
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย หลังอาหารเดินทางสู่ “เมืองรอสไคลด์” (Roskilde) (132 กม.) ชมเมืองรอสไคลด์ เมืองเก่าที่มีอยู่กว่า 1,000 ปี เคยเป็นทั้งศูนย์กลางของชาวไวกิ้งและเคยเป็นเมืองศูนย์กลางการปกครองระบอบกษัตริย์ ชมมหาวิหารแห่งรอสไคลด์ (Roskilde Domkirke) มหาวิหารกอธิคแรกที่ถูกสร้างขึ้นจากอิฐสีแดง สถานที่เก็บพระศพของกษัตริย์และราชวงศ์เดนมาร์ก ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก เมื่อปี ค.ศ.1995 ได้เวลาอันสมควร เดินทางสู่ “กรุงโคเปนเฮเก้น” (34 กม.)
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
ที่พัก: SCANDIC PALACE HOTEL, COPENHAGEN หรือที่พักระดับใกล้เคียง
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
หลังอาหารนำท่านเข้าชม “พระราชวังโรเซนบอร์ก” (Rosenborg Castle) พระราชวังอันสวยงามแห่งนี้ ตั้งอยู่ใจกลางเมืองโคเปนเฮเกน สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 17 โดยพระเจ้าคริสเตียนที่ 4 พระมหากษัตริย์ที่โด่งดังที่สุดคนหนึ่งของเดนมาร์ก สถาปัตยกรรมเป็นแบบดัตช์เรเนซองส์ (Dutch Renaissance) นำท่านชม “ไนต์ส ฮอลล์” (The Knights’ Hall) ซึ่งจัดแสดงบัลลังก์ที่ใช้ในพิธีราชาภิเษกของราชวงศ์เดนมาร์ก และรูปปั้นสิงโตเงินขนาดเท่าของจริงที่ปกป้องบัลลังก์อยู่ นำท่านชมเครื่องราชกกุธภัณฑ์ประดับเพชรที่ใช้ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษกของราชวงศ์เดนมาร์ก ซึ่งเครื่องราชกกุธภัณฑ์ของเดนมาร์กเป็นเครื่องราชกกุธภัณฑ์ชุดเดียวในโลกที่มีการสวมใส่จริงโดยราชวงศ์และนำมาจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ให้บุคคลธรรมดาได้เข้าชม กลับสู่ ใจกลางเมืองโคเปนเฮเก้น นำท่านถ่ายรูปคู่กับ เงือกน้อยลิตเติ้ลเมอร์เมด (Little Mermaid) ชมน้ำพุเกฟิออน เทพธิดาผู้เสียสละกับบุตรชายที่ร่วมสร้างเกาะซีแลนด์ขึ้นมาให้ชาวเดนมาร์กตามความเชื่อ นำท่านชมจตุรัส “พระราชวังอามาเลียนบอร์ก” (Amalienborg Palace) ที่ประทับในฤดูหนาวของราชวงศ์แห่ง เดนมาร์ก ชมจตุรัสซิตี้ฮอลล์ อาคารเทศบาลเมืองเก่า เขตย่านใจกลางเมือง นำท่านเดินทางสู่ “ย่านนูฮาวน์” Nyhavn ซึ่งเป็นท่าเรือเก่าที่มีการขุดคลองเชื่อมต่อกับทะเลและยังเป็นที่ตั้งของบ้านเรือนตั้งแต่ยุคคริสต์ศตวรรษที่ 17 เรียงรายเป็นภาพที่งดงาม
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น เมนู ซี่โครงหมูอบรสเลิศ
บ่าย หลังอาหาร อิสระกับ ช้อปปิ้งย่านถนนคนเดิน “สตรอยเกท” เป็นถนนคนเดินที่คึกคักที่สุดสแกนดิเนเวีย มีสินค้าแบรนด์เนมมากมายทั้งของเดนมาร์กเองและของนำเข้ารวมถึงนาฬิกาสวิสฯ ราคาพิเศษ ท่านอาจลองชิมช็อคโกแลตร้อนรสเลิศจากร้านลา กลาซ (La Glace) ร้านชื่อดังที่ตั้งอยู่กลางถนนสตรอยเกท์ **สำหรับท่านที่ไม่ชอบการช้อปปิ้งอาจใช้บริการ
ล่องเรือชมคลองซึ่งเป็นเอกลักษณ์อีกอย่างหนึ่งของกรุงโคเปนเฮเกน (สอบถามจากหัวหน้าทัวร์) หรือเข้าชมสวนสนุกทิโวรี สวนสนุกเก่าแก่ของยุโรป (มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม) **
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารไทย
ที่พัก: SCANDIC PALACE HOTEL, COPENHAGEN หรือที่พักระดับใกล้เคียง
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
ได้เวลาอันสมควร นำท่านเดินทางสู่ สนามบินโคเปนเฮเก้น
14.25 ออกเดินทางสู่ สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสายการบินไทย แอร์เวย์ เที่ยวบินที่ TG 951
06.00 เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจ
วันเดินทางไป - กลับ | ผู้ใหญ่ท่านละ | พักเดี่ยวเพิ่มเงิน | ราคาเด็กท่านละ | |
---|---|---|---|---|
01 ธ.ค. 66 - 10 ธ.ค. 66 | 172,900 บาท | 37,900 บาท | สอบถามเพิ่มเติม | จอง |
27 ธ.ค. 66 - 05 ม.ค. 67 | 182,900 บาท | 39,900 บาท | สอบถามเพิ่มเติม | จอง |
21 ม.ค. 67 - 30 ม.ค. 67 | 172,900 บาท | 37,900 บาท | สอบถามเพิ่มเติม | จอง |
12 ก.พ. 67 - 21 ก.พ. 67 | 172,900 บาท | 37,900 บาท | สอบถามเพิ่มเติม | จอง |
16 มี.ค. 67 - 25 มี.ค. 67 | 172,900 บาท | 37,900 บาท | สอบถามเพิ่มเติม | จอง |
** บางโรงแรมมีพนักงานยกกระเป๋าไม่พอทำให้เกิดความล้าช้า ท่านสามารถนำสัมภาระขึ้นห้องพักได้ด้วยตัวเอง **
55 หมู่ 6 ดอนเปา แม่วาง เชียงใหม่ 50360